จากกรณีเหตุฆาตกรรม น.ส.วรรณี หรือวรรณ จิระเจริญยิ่ง อายุ 58 ปี เศรษฐินีนักปฏิบัติธรรม ถูกคนร้ายสังหารมัดมือมัดเท้า เอาศพยัดไว้ในตู้เย็น ในบ้านพัก อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ โดยตำรวจพบศพเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากญาติระบุ น.ส.วรรณีหายไปหลายวัน ไม่สามารถติดต่อได้
ล่าสุดวันนี้ (29 ต.ค.) ความคืบหน้าทางคดี พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัด ฮอด พิจารณาออกหมายจับนายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร์อายุ 39 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ลำปาง โดย ศาลพิจารณาหมายจับที่ 41/2562 ลงวันที่ 28 ต.ค.2562 ในข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึง แก่ความตาย และรับของโจร
รายงานข่าวแจ้งว่านายวิฑูรย์ ทำงานขับรถสองแถวเหลืองเส้นทางสายจอมทอง-เชียงใหม่ ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวน มีประจักษ์พยานรวมถึงพยานแวดล้อมว่า นายวิฑูรย์ เป็นผู้รับโทรศัพท์มือถือของ น.ส.วรรณี แล้วหลอกญาติที่ติดต่อเข้ามาว่า น.ส.วรรณี ไปต่างประเทศ และภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางขณะนั่งรถยนต์บีเอ็มดับบลิวของ น.ส.วรรณี อีกทั้งภาพวงจรปิดจากตู้เอทีเอ็มทีสามารถยืนยันได้ว่านายวิฑูรย์ เป็นบุคคลที่ใช้บัตรเอทีเอ็มของ น.ส.วรรณี ทยอยกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ตามสถานที่ต่างๆ
ทั้งนี้ ผู้ขับขี่รถกระบะสาธารณะ 2 แถว สีเหลือง วิ่งระหว่าง อำเภอจอมทอง - เข้าเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วินาทีแรกที่ตำรวจเผยแพร่ภาพวงจรปิด ขณะชายคนหนึ่งยืนกดเงินที่ตู้ ATM ก็รู้ทันทีว่าคือ นายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร หรือ เอ็ม อายุ 39 ปี อดีตคนขับรถเหลือของวินแห่งนี้ ซึ่งส่วนตัวมีความสนิทคุ้นเคยกันอย่างมาก จนรู้ว่านายวิฑูรย์มีปัญหาเรื่องการเงินไม่สามารถจ่ายค่าเช่ารถ 2 แถวได้ ก่อนผันตัวเองไปขับแกร็บคาร์ในตัวเมืองเชียงใหม่ อีกทั้งยังมีปัญหาครอบครัวเลิกกับภรรยาที่มีลูกด้วยกันแล้ว 2 คนด้วย
ด้านผู้ขับขี่รถเหลืองอีกราย เปิดเผยว่า นายวิฑูรย์เป็นคนอัธยาศัยดี จนสนิทคุ้นเคยกับนางสาววรรณา เจริญยิ่ง ผู้เสียชีวิต ซึ่งจะได้รับความไว้วางใจให้ไปรับส่งผู้เสียชีวิตจากทาวน์โฮมในอำเภอจอมทอง ไปส่งทำธุระในเมืองเชียงใหม่หรือไปสนามบินอยู่เป็นประจำ แต่ความสัมพันธ์นอกเหนือจากนี้ไม่สามารถตอบได้ ส่วนสาวทอมคนสนิทตามข่าว ผู้ขับขี่รถเหลืองรายนี้ยืนยันว่าไม่เคยเห็น เพราะผู้เสียชีวิตจะไม่มาขึ้นรถที่วิน แต่จะนัดให้นายวิฑูรย์ไปรับยังที่พักหรือจุดนัดหมายอื่น.
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนพบข้อมูลว่าคนร้ายได้ขับรถ BMW ของผู้เสียชีวิตไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มตามจุดต่างๆหลายจังหวัด ทั้งเชียงใหม่ ลำปาง และครั้งล่าสุดเอาบัตรเอทีเอ็มผู้เสียชีวิตไปกดที่ตู้ใน จ.ระยอง เบื้องต้นจากการตรวจสอบกับทางธนาคารพบว่าเงินถูกกดไปแล้วรวม 1.2 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าคนร้ายต้องทรมานผู้เสียชีวิตแล้วขู่บังคับให้บอกรหัสเอทีเอ็มแน่นอน
